(๗) คำร้อง ขอให้คุ้มครอง ประโยชน์ใน ระหว่างพิจารณา คดีหมาเลขดำที่ ๑๙๔ / ๒๕๔๙ คดีหมายเลขที่ / ๒๔ ศาล แรงงานภาค 1 วันที่ ๙ เดือน มีนาคม พุทธศักราช ๒๕ ๕๐ ความ แพ่ง สหภาพแรงงานไทยเรยอนฯ โจทก์ ระหว่าง บริษัท ไทยเรยอน จำกัด ( มหาชน ) จำเลย ข้าพเจ้า สหภาพแรงงานไทยเรยอน โจทก์ เชื้อชาติ - สัญชาติ ไทย อาชีพ - เกิดวันที่ เดือน พ.ศ. อายุ ปี อยู่บ้านเลขที่ หมู่ ถนน อ่างทอง - อยุธยา ตรอก/ซอย - ใกล้เคียง - ตำบล / แขวง โพสะ อำเภอ / เขต เมืองอ่างทอง จังหวัด อ่างทอง โทรศัพท์ ๐๓๕๖๑๓๕๖๓ ขอยื่นคำร้องมีข้อความตามที่จะกล่าวต่อไปนี้
ข้อ ๑. คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าโจทก์และจำเลยได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างในเรื่อง ขอหอพักชายโสด หอพักครอบครัว หอพักลีดเดอร์ เพื่อจัดให้พนักงานอยู่อาศัย แต่จำเลยจะทำการทุบหอพักดังกล่าวลงเพื่อจำเลยจะได้นำสถานที่ดงกล่าวไปขยายโรงงาน ซึ่งการ กระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญาตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ยังมีผลใช้บังคับได้อยู่ จึงขอให้จำเลยระงับการทุบหอดังกล่าว แต่เนื่องจากในระหว่างการพิจารณาคดีจำเลยได้กระทำการอันเป็นการละเมิดต่อสิทธิและประโยชน์ของพนักงานที่พักอาศัย อยู่ตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างในหอพักดังกล่าว โดยการมีหนังสือแจ้งให้พนักงานที่อาศัยอยู่ในหอพักที่เป็นข้อพิพาททำการย้ายออกจาก หอพักดังกล่าว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวของจำเลยเป็นการกระทำผิดต่อสัญญาข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างงาน ซึ่งหากปล่อยให้จำเลยการะทำต่อ ไปก็จะมีผลกระทบสิทธิประโยชน์ของโจทก์ต่อไป อาศัยเหตุดังกล่าวข้างต้นโจทก์จึงประสงค์ที่จะขอให้ศาลได้โปรดกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่าง การพิจารณาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๖๔ โดยมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยมีหนังสือหรือกระทำการใด ๆ อันมีผลทำให้ผู้ที่พัก อาศัยอยู่ในหอพักอันเป็นข้อพิพาทนั้นต้องถูกรบกวนสิทธิประโยชน์ในการพักอาศัยต่อไป ขอศาลที่เคารพได้โปรดอนุญาต ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด ลงชื่อ ผู้รับรอง คำร้องฉบับนี้ข้าพเจ้า นายอุกฤษ เรืองไหรัญ ทนายความโจทก์เป็นผู้เรียงและพิมพ์ ลงชื่อ ผู้เรียงและพิมพ์
______________________________________________________________________________________________________________ หมายเหตุ* ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว __________________________ผู้ร้อง |
|
( รง.๑ ) คำฟ้องคดีแรงงาน คดีหมาเลขดำที่ ๒๑๗ - ๒๓๒ / ๒๕ ๕๐ ศาลแรงงานภาค ๑ ( ศาลจังหวัด..................................................) วันที่ ๙ เดือน มีนาคม พุทธศักราช ๒๕ ๕๐ นางสายฝน บุญยขันธ์ โจทก์ ระหว่าง บริษัทไทยเรยอน จำกัด ( มหาชน ) จำเลย
ข้าพเจ้า นางสายฝน บุญยขันธ์ โจทก์ / ผู้แทนโจทก์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 8 ถนน - ตรอก/ซอย - ใกล้เคียง - ตำบล / แขวง ศาลเจ้าโรงทอง อำเภอ / เขต วิเศษชัยชาญ กรุงเทพมาหานคร/จังหวัด อ่างทอง โทรศัพท์ - ที่ทำงาน_____36 หมู่ที่ 2 ถนน อ่างทอง - อยุธยา ตำบลโพสะ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง โทรศัพท์ 035 -611227 กับพวก รวม - คน ตามบัญชีรายชื่อ อายุ และที่อยู่แนบท้ายคำฟ้อง ขอยื่นฟ้อง บริษัทไทยเรยอน จำกัด ( มหาชน ) จำเลย อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 2 ถนน อ่างทอง - อยุธยา ตรอก/ซอย - ใกล้เคียง - ตำบล / แขวง โพสะ อำเภอ / เขต เมือง กรุงเทพมาหานคร/จังหวัด อ่างทอง โทรศัพท์ 035 - 611227 ที่ทำงาน____ - โทรศัพท์ - กับพวก รวม - คน ตามบัญชีรายชื่อ และที่อยู่แนบท้ายคำฟ้อง มีข้อความตามที่จะกล่าวต่อไป ข้อ ๑. จำเลยได้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม £ สัญญาจ้างแรงงาน £ ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน R ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง R กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน £ กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ £ กฎหมายประกันสังคม £ กฎหมายอื่น ๆ...................................................................................................... กล่าวคือ ข้อ ๑ จำเลยมีฐานะเป็นนิติบุคคลประเภท บริษัทหมาชนจำกัด ซึ่งได้จดทะเบียน ณ สำนักงานทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหา นครโดยใช้ชื่อในทางการค้าว่า "บริษัท ไทยเรยอน จำกัด ( มหาชน )" โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เลขที่ 36 หมู่ 2 ถนนอ่างทอง - อยุธยา ตำลบโพสะ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2532 และยังคงทำงานอยู่กับจำเลยในตำแหน่งโอปะเรเตอร์ และได้ค่าจ้างเดือน ละ 19,504 บาท โดยในการทำงานนั้น จำเลยได้จัดให้มีสวัสดิการหอพักให้พนักงานได้เข้าอยู่อาศัยในบริเวณโรงงาน ซึ่งโจทก์ก็ได้เข้าอยู่อาศัยใน หอพักที่จำเลยจัดให้ติดต่อกันมาเป็นเวลานานมากกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นสภาพการจ้างอย่างหนึ่งตามกฎหมายแรงงาน ข้อ ๒. ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมและ 30 กันยายน 2549 จำเลยได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ย้ายหอพักที่โจทก์อยู่ ภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2549 โดยอ้างเหตุว่าจำเลยต้องการใช้พื้นที่บริเวณหอพักที่โจทก์พักอาศัยในการก่อสร้างอาคารเพื่อขยายโรงงาน เมื่อโจทย์ได้รับหนังสือ แจ้งดังกล่าวของจำเลยดังกล่าวแล้ว โจทก์ก็ได้มีหนังสือชี้แจงคัดค้านไปยังจำเลยถึงเหตุที่ยังไม่ได้ย้ายตามหนังสือแจ้งก็เนื่องจากหอพักจุด 10 ที่ จำเลยจัดให้นั้นมีสภาพห้องทับแคบกว่าเดิมมากและจากเดิมที่เคยอาศัยอยู่ห้องละคนต้องเปลี่ยนมาอยู่รวมกับหลายคน อีกทั้งยังไม่มีความชัดเจนว่า จำเลยจะก่อสร้างหอพักใหม่ทดแทนให้ตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมหรือไม่อีกทั้งในเวลาดังกล่าวนั้นทางสหภาพแรงงานไทยเรยอนที่โจทก์ เป็นสมาชิกได้ดำเนินการฟ้องร้องจำเลยเป็นคดในข้อหาว่าจำเลยกระทำผิดข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ในเรื่องที่จำเลยจะทำการทุบหอพักที่โจทก์ อยู่อาศัย ต่อศาลแรงงานภาค 1 เป็นคดีมายเลขดำที่ รง. 1 / 2549 และคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งโจทก์ยังไม่ได้รับความชัดเจนจึงเป็น เหตุทำให้ยังไม่ย้ายออกจากหอพักตามหนังสือแจ้งของจำเลยดังกล่าวข้างต้น ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน และ 6 ธันวาคม 2549 จำเลยได้มีคำสั่งลงโทษโจทก์โดยการตักเตือนเป็นหนังสือ และพักงานโจทก์เป็น เวลา 2 วัน โดยไม่จ่ายค่าจ้าง ตามลำดับ โดยจำเลยอ้างเหตุลงโทษว่าโจทก์กระทำผิดฐานฝ่าฝืนระเบียบหรือคำสั่งของบริษัทอันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตามระเบียบข้อบังคับบองบริษัทฯ ข้อ 4.4 ข้อ ๓. การกระทำของจำเลยที่ลงโทษโจทก์โดยการตักเตือนเป็นหนังสือและพักงานจำนวน 2 วัน ตามฟ้องข้อ 2. นั้น เป็นการลงโทษที่ ไม่ชอบด้วยกฎหมายและจำเลยใช้สิทธิลงโทษโดยไม่สุจริตมีเจตนาที่จะกลั่น แกล้งโจทก์เพราะไม่ได้กระทำความผิดตามที่จำเลยอ้างเป็นเหตุลงโทษ แต่อย่างใด เนื่องจากการที่โจทก์ไม่ยอมย้ายออกจากหอพักก็ด้วยเหตุที่ว่าหนังสือบอกกล่าวให้โจทก์ออกจากหอพักดังกล่าวนั้นโจทก์เห็นว่าเป็นการ เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณแก่โจทก์เนื่องจากว่าโจทก์ได้เข้าอาศัยอยู่ในหอพักดังกล่าวก็โดยการจัดให้เข้าอยู่อาศัยโดยจำเลยเป็นผู้ทำการ คัดสรรตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่ 21 มิถุนายน 2532 ข้อที่ 29,30 และตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2535 ข้อ 21 ที่ทำขึ้นระหว่างสหภาพแรงงานไทยเรยอน กับ จำเลย อีกทั้งคำสั่งของจำเลยที่ให้โจทก์ย้ายออกจากหอพักครอบครัวดังกล่าวนั้นก็มิใช่คำสั่งอันเกี่ยวกับการทำงานตามที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นเหตุ ลงโทษโจทก์แต่อย่างใด เนื่องจากว่าคำสั่งเกี่ยวกับการทำงานนั้น หมายถึงระเบียบข้องบังคับหรือคำสั่งที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรง งานที่นายจ้างได้กำหนดขึ้นเพื่อให้ลูกจ้างปฏิบัติเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน การป้องกันความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ชื่อเสียงและทางทำมาหาได้ ของนายจ้าง แต่คำสั่งของจำเลยดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับการอยู่อาศัยในหอพักซึ่งมิใช่เป็นเรื่องการปฏิบัติงานหรือเกี่ยวข้องกับการทำงาน การที่จำ เลยมีหนังสือบอกกล่าวให้โจทก์ออกจากหอพักจำเลยก็มีเจตนาที่ไม่สุจริตเนื่องจากจะเห็นได้ว่าเลาที่จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์และพนักงานอื่น ๆ เพื่อ ให้ย้ายอกจากหอพักนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการะบวนพิจารณาคดีของศาลแรงงาน 1 ในคดีที่สหภาพแรงงานไทยเรยอน ได้ดำเนินการฟ้องร้องจำเลยเป็นคดีหมายเลขดำที่ รง. 1 /2549 ในข้อหาว่าจำเลยการะทำการผิดข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ในกรณีที่จำเลยจะ ทำการทุบหอพักชายโสด หอพักครอบครัวและหอพักลีดเดอร์ โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยจะทำการทุบหอพักดังกล่าวซึ่งอยู่ระหว่างการ พิจารณาของศาล ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะบีบบังคับกลั่นแกล้งให้โจทก์ออกจากหอพักเพื่อจำเลยจะได้นำไปเป็นเหตุผลอ้างอิงเพื่อทำ การทุบหอพักตามที่จำเลยต้องการต่อไป โจทก์จึงขอให้ศาลได้โปรดมีคำพิพากษาให้จำเลยเพิกถอนการลงโทษตักเตือนเป็นหนังสือและพักงาน โจทก์จำนวน 2 วัน โดยไม่จ่ายค่าจ้างดังกล่าวข้างต้นเสีย พร้อมทั้งบังคับให้จำเลยจ่ายเงินค่าจ้างจำนวนวัน 2 วันที่จำเลยตัดไปคืนให้แก่โจทก์ เป็น จำนวนเงิน 1,300 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์ โจทก์ไม่มีหนทางอื่นใดที่จะบังคับเอาแก่จำเลยได้ จึงจำต้องมาฟ้องเป็นคดีต่อศาลนี้ เพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
______________________________________________________________________________________________________________ หมายเหตุ* ข้าพเจ้าทราบกำหนดวันเวลานัดและคำสั่งศาลแล้ว __________________________โจทก์
|
คำขอท้ายคำฟ้องคดีแรงงาน เพราะฉะนั้น ขอศาลออกหมายเลขเรียกจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอนี้ต่อไป R ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือ ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง โดย ให้จำเลยเพิก ถอนการลงโทษตักเตือนเป็นหนังสือ และการลงโทษพักงาน และบังคับให้จำเลยจ่ายค่าจ้างคือให้แก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน 1,300 บาท พร้อมด้วย ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์ £ ให้จำเลยปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยจ่าย ค่าจ้าง รวม บาท ค่าล่วงเวลา รวม บาท คำทำงานในวันหยุด รวม บาท ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี รวม บาท ค่าล่วงเวลาในวันหยุด รวม บาท ค่าชดเชย รวม บาท เงินทดแทน รวม บาท ________________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้จำเลยปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ โดย______________________________________________ _______________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลย และ ___________________________________________________________ _______________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้จำเลยปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคม โดย______________________________________________________ _______________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์เป็นเงิน__________________________________________บาท และให้จำเลย____________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้จำเลยปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานในกรณีอื่น ______________________________________________________ _______________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ ___________________________โจทก์ / ผู้แทนโจทก์ __________________________ผู้พิพากษาผู้จดบันทึก คำสั่งศาล ________________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ นัดพิจารณาวันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕ เวลา นาฬิกา _____________________________________ผู้พิพากษาศาลแรงกลาง
|
( รง.๑ ) คำฟ้องคดีแรงงาน คดีหมาเลขดำที่ / ๒๕ ๕๐ ศาลแรงงานภาค ๑ ( ศาลจังหวัด..................................................) วันที่ ๙ เดือน มีนาคม พุทธศักราช ๒๕ ๕๐ นางสุภาพ ไพจิตร์จินดา โจทก์ ระหว่าง บริษัทไทยเรยอน จำกัด ( มหาชน ) จำเลย
ข้าพเจ้า นางสุภาพ ไพจิตร์จินดา โจทก์ / ผู้แทนโจทก์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 / 34 หมู่ 6 ถนน - ตรอก/ซอย - ใกล้เคียง - ตำบล / แขวง ไผ่ลิง อำเภอ / เขต พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมาหานคร/จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ - ที่ทำงาน_____36 หมู่ที่ 2 ถนน อ่างทอง - อยุธยา ตำบลโพสะ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง โทรศัพท์ 035 -611227 กับพวก รวม - คน ตามบัญชีรายชื่อ อายุ และที่อยู่แนบท้ายคำฟ้อง ขอยื่นฟ้อง บริษัทไทยเรยอน จำกัด ( มหาชน ) อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 2 ถนน อ่างทอง - อยุธยา ตรอก/ซอย - ใกล้เคียง - ตำบล / แขวง โพสะ อำเภอ / เขต เมือง กรุงเทพมาหานคร/จังหวัด อ่างทอง โทรศัพท์ 035 - 611227 ที่ทำงาน____ - โทรศัพท์ - กับพวก รวม - คน ตามบัญชีรายชื่อ และที่อยู่แนบท้ายคำฟ้อง มีข้อความตามที่จะกล่าวต่อไป
______________________________________________________________________________________________________________ หมายเหตุ* ข้าพเจ้าทราบกำหนดวัน เวลานัดและคำสั่งศาลแล้ว __________________________โจทก์
ข้อ ๑. จำเลยได้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม £ สัญญาจ้างแรงงาน £ ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน £ ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง £ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน £ กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ £ กฎหมายประกันสังคม £ กฎหมายอื่น ๆ...................................................................................................... กล่าวคือ ข้อ ๑ จำเลยมีฐานะเป็นนิติบุคคลประเภท บริษัทมหาชน จำกัด ซึ่งได้จดทะเบียน ณ สำนักงานทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหา นครโดยใช้ชื่อในทางการค้าว่า "บริษัท ไทยเรยอน จำกัด ( มหาชน )" โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เลขที่ 36 หมู่ 2 ถนนอ่างทอง - อยุธยา ตำลบโพสะ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2519 และยังคงทำงานอยู่กับจำเลยในตำแหน่งพนักงานเสมียน โดยในการทำงาน นั้น จำเลยได้จัดให้มีสวัสดิการหอพักให้พนักงานได้เข้าอยู่อาศัยในบริเวณโรงงาน ซึ่งโจทย์ก็ได้เข้าอยู่อาศัยในหอพักที่จำเลยจัดให้ติดต่อกันมาเป็น เวลานานมากกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นสภาพการจ้างอย่างหนึ่งตามกฎหมายแรงงาน ข้อ ๒. ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2549 จำเลยได้มีหนังสือบอกกล่าวให้โจทก์ออกจากหอพักที่โจทก์อาศัยอยู่ ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 โดยอ้างเหตุว่าโจทก์ไม่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่ กำหนดไว้ในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ฉบับลงวันที่ 3 มิถุนายน 2526 ข้อที่ 20 เมื่อโจทก์ได้รับหนังสือบอกกล่าวของจำเลยดังกล่าว โจทก์ก็ได้มีหนังคัดค้านไปยังจำเลยและไม่ได้ย้ายออกจากหอพักที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายหนังสือบอกกล่าวให้ออกจากหอพักครอบครัวและสำเนาหนังสือคัดค้านแกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 และ 2 ต่อมาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 จำเลยได้ลงโทษโจทก์โดยการตักเตือนเป็นหนังสือ โดยอ้างเหตุว่าโจทก์ขัดคำสั่งของจำเลยที่ให้ออก จากหอพักครอบครัว อันเป็นความผิดต่อระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ข้อ 4.4 รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายหนังเตือน เอกสาร หมายเลข 3 ข้อ 3. การกระทำของจำเลยที่ลงโทษโจทก์โดยการตักเตือนเป็นหนังสือตามฟ้องข้อ 2. เป็นการลงโทษที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและจำเลย ใช้สิทธิลงโทษโดยไม่สุจริตมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้างโจทก์ เพราะว่าโจทก์ไม่ได้กระทำความผิดตามที่จำเลยอ้างเป็นเหตุลงโทษแต่อย่างใด เนื่องจาก การที่โจทก์ไม่ยอมย้ายออกจากหอพักก็ด้วยเหตุทีว่าหนังสือบอกกบ่าวให้โจทก์ออกจากหอพักครอบครัวดังกล่าวนั้นโจทก์เห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลง สภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณแก่โจทก์เนื่องจากว่าโจทก์ได้เข้าอาศัยอยู่ในหอพักดังกล่าวก็โดยการจัดให้เข้าอยู่อาศัยโดยจำเลยเป็นผู้ทำการคัดสรรตาม คุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิได้อยู่อาศัยในหอพักครอบครัวตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่ 21 มิถุนายน 2532 ข้อที่ 31 และตามข้อตก ลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างงานฉบับลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2535 ข้อ 21 ที่ทำขึ้นระหว่างสหภาพแรงงานไทยเรยอน กับ จำเลย รายละเอียดปรากฏตาม สำเนาภาพถ่ายข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับลงวันที่ 21 มิถุนายน 2532 ข้อที่ 31 และฉบับลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2535 ข้อที่ 21 เอกสารท้าย ฟ้องหมายเลข 4 และ 5 อีกทั้งคำสั่งของจำเลยที่ให้โจทก์ย้ายออกจากหอพักครอบครัวดังกล่าวนั้นก็มิใช่คำสั่งอันเกี่ยวกับการทำงานตามที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นเหตุลง โทษโจทก์แต่อย่างใด เนื่องจากว่าคำสั่งเกี่ยวกับการทำงานนั้น หมายถึงระเบียบข้อบังคับหรือคำสั่งที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงานที่ นายจ้างได้กำหนดขึ้นเพื่อให้ลูกจ้างปฏิบัติเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน การป้องกันความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ชื่อเสียงและทางทำมาหาได้ของนาย จ้าง แต่คำสั่งของจำเลยดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับการอยู่อาศัยในหอพักซึ่งมิใช่เป็นเรื่องการปฏิบัติงานหรือเกี่ยวข้องกับการทำงาน การที่จำเลยลงโทษ โจทก์เพราะเหตุขัดคำสั่งดังกล่าวจึงเป็นการลงโทษที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และที่จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์และพนักงานอื่น ๆ เพื่อให้ย้ายออกจากหอพัก นั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อยู่ในระหว่างการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาลแรงงานภาค 1 ในคดีที่สหภาพแรงงานไทยเรยอน ได้ดำเนินการฟ้องร้อง จำเลยเป็นคดีหมายเลขดำที่ รง. 1 / 2549 ในข้อหาว่าจำเลยกระทำการผิดข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ในกรณีที่จำเลยจะทำการทุบหอพักชายโสด หอพักครอบครัวและหอพักลีดเดอร์ โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยระงับการทุบหอพักดังกล่าวซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ย่อมแสดงให้ เห็นว่าจำเลยมีเจตนาที่จะบีบบังคับกลั่นแกล้งให้โจทก์ออกจากหอพักเพื่อจำเลยจะได้นำไปเป็นเหตุผลอ้างอิงเพื่อทำการทุบหอพักตามที่จำเลยต้องการ ต่อไป โจทก์จึงขอให้ศาลได้โปรดมีคำพิพากษาให้จำเลยเพิกถอนการลงโทษ ตักเตือนเป็นหนังสือดังกล่าวข้างต้นเสีย โจทก์ไม่มีหนทางอื่นใดที่จะบังคับเอาแก่จำเลยได้ จึงจำต้องมาฟ้องเป็นคดีต่อศาลนี้ เพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
|
คำขอท้ายคำฟ้องคดีแรงงาน เพราะฉะนั้น ขอศาลออกหมายเลขเรียกจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอนี้ต่อไป R ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือ ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง โดย ให้จำเลยเพิก ถอนการลงโทษตักเตือนเป็นหนังสือโจทก์ ฉบับลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ £ ให้จำเลยปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยจ่าย ค่าจ้าง รวม บาท ค่าล่วงเวลา รวม บาท คำทำงานในวันหยุด รวม บาท ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี รวม บาท ค่าล่วงเวลาในวันหยุด รวม บาท ค่าชดเชย รวม บาท เงินทดแทน รวม บาท ________________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้จำเลยปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ โดย______________________________________________ _______________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลย และ ___________________________________________________________ _______________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้จำเลยปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคม โดย______________________________________________________ _______________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายที่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์เป็นเงิน__________________________________________บาท และให้จำเลย____________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ £ ให้จำเลยปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานในกรณีอื่น ______________________________________________________ _______________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ ___________________________โจทก์ / ผู้แทนโจทก์ __________________________ผู้พิพากษาผู้จดบันทึก คำสั่งศาล ________________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________________________ นัดพิจารณาวันที่ เดือน พ.ศ. ๒๕ เวลา นาฬิกา _____________________________________ผู้พิพากษาศาลแรงกลาง
|